Skip to main content

โรงเรียนบ้านตลาดเขตมิตรภาพที่ 105

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

แหล่งการเรียนรู้ของโรงเรียน


แหล่งการเรียนรู้ของโรงเรียน1
https://online.fliphtml5.com/szjkb/rglc/
แหล่งการเรียนรู้ของโรงเรียน
Adobe Acrobat Document ดาวน์โหลดไฟล์
ศาลพ่อปู่เขาคลุกคลี
 ผู้อยู่ในเหตุการณ์คราวนั้นได้เล่า  ด้วยน้ำเสียงเสมือนภาพในวันนั้นไม่มีวันลบเลือนจากความทรงจำ
 
        "ตอนนั้นทุกคนยังอยู่ในไร่  เช่น  เถ้าแก่จี้มุ้ย  แซ่เจา  เถ้าแก่เปีย  แซ่เล้า เถ้าแก่ผ่อง  แซ่เจา แต่ด้วยความศรัทธาจึงได้มาช่วยกันด้วยความเต็มใจ  หลังจากสมหวังกันแล้วก็ได้นัดกันไปแก้บน  เตรียมเครื่องเซ่นไปมีหัวหมู  เหล้า  ผลไม้  ขนมและยาฝิ่น  รวมตัวกันที่ตลาดประมาณ ๔๐ คน  สมัยนั้นนับว่ามีคนชุมนุมกันมากที่สุด  บางคนเดินเท้า  บางคนใช้รถจักรยาน  ในช่วงนั้นมีคนทรงเจ้ามาจากราชบุรี  เขามาเยี่ยมญาติที่อยู่แถวนี้  เลยเชิญเขามาประทับทรงด้วย  เมื่อไปถึงได้จุดธูปบอกเล่าแก้บนกัน  เสร็จแล้ว  ก็ได้ให้คนทรงเจ้าเชิญเจ้าพ่อประทับทรง  ใครมีปัญหาอะไรก็ถามให้เจ้าพ่อช่วยชี้แนะ"
       ด้วยความศักด์สิทธ์ที่ทุกคนได้ประจักษ์เช่นนั้น  ชาวบ้านตลาดเขตจึงปรึกษากันถึงการย้ายศาลพ่อปู่เขาคลุกคลีมาอยู่ในสถานที่กลางชุมชนในปัจจุบัน  คุณสุรศักด์ ศิวะพรชัย  อดีตกำนันตำบลรางหวายได้เล่าว่า
       "เจ้าพ่อปู่บอกว่าระหว่างนี้อยู่ในพรรษา เหล้าและยาฝิ่นของดเว้น  ศาลนั้นก็เอาหญ้ามุงให้ก็พอ  แล้วมีคนถามขึ้นว่า  ศาลทีนี่ท่านพ่อปู่ให้ใช้มุงแฝก  ส่วนตัวไม้และสังกะสีที่เตรียมมาให้นำกลับไปปลูกที่ตลาด  ขอเชิญพ่อปู่ไปประทับปกปักรักษา  คุ้มครองกลุ่มลูกช้างได้ไหม  พ่อปู่ก็บอกว่า เออ  ดี คุณแย่  แซ่เจาจึงเสนอขึ้นว่า ถ้าปลุกศาลให้พ่อปู่ที่ตลาดผมยกที่ดินให้ฟรี    แล้วจึงได้เชิญพ่อปู่ไปดูที่ซึ่งคุณแย่ให้ที่ดินซึ่งเป็นคอกวัว  พ่อปู่ในร่างทรงเห็นแล้วสั่นหัวว่า สถานที่ไม่เหมาะสม  ดังนั้น เถ้าแก่จี้มุ้ย  แซ่เจาจึงเสนอขึ้นว่า  ปลูกศาลเจ้าพ่อนั้นต้องเป็นที่ใกล้ทางสี่แยกหรือสามแยกจึงจะดี  เป็นมงคล  คนผ่านไปมาจะได้กราบไหว้โดยสะดวก แล้วก็เชิญพ่อปู่ไปดูฝั่งถนนด้านตะวันออกใกล้สามแยกเป็นไร่ของแป๊ะจอก  ไม่ทราบนามสกุล  เถ้าแก่จี้มุ้ยก็บอกว่า  ถ้าเห็นว่าเหมาะสมแล้วก็จะติดต่อให้  สมัยก่อนนั้นที่ดินราคาถูกมาก  ถ้าพอใจยกให้กันฟรี ๆ ก็มี  เมื่อพ่อปู้มาเห็นที่แล้วก็ยิ้มชอบใจ  บอกปลูกศาลตรงนี้ดี  มีความเจริญ  แต่ต้องหันหน้าศาลไปให้ตรงเขา  ดังนั้น  ชาวบ้านจึงมอบหมายให้เถ้าแก่จี้มุ้ยไปติดต่อขอที่ดินกับเจ้าของคือแป๊ะจอกกับนางชิ้น  ซึ่งทั้งสองตา-ยายก็ได้มอบให้ด้วยความเต็มใจ  หลังจากนั้น  ก็ร่วมกันวางแผนปลูกศาลให้พ่อปู่ตรงทางสี่แพร่ง สถานที่ที่ปรากฏในปัจจุบัน  และเมื่อตกลงจะสร้างศาลก็เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์อีก คือ  ฝนที่ขาดหายไปก็ตกลงมาอย่างมากมาย  จนสระน้ำของทุกบ้านเต็มไปหมด  พืชพันธ์ต่าง ๆ ได้ผลผลิตเป็นอย่างดี  ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างศาลเป็นฝาไม้กระดาน  มุงสังกะสี  แล้วอัญเชิญพ่อปู่มาสิงสถิตย์"
          นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา  พ่อปู่เขาคลุกคลีได้รับการขนานนามใหม่จากชาวบ้านตลาดเขตว่า เจ้าพ่อเขาคลุกคลี  ส่วนบารมีของท่านนั้นยังเล่าขานกันว่า
           "ประชาชนมาบนบานศาลกล่าวแล้วได้ผลตามต้องการ  จึงมีการแก้บนตามที่อธิษฐานไว้  ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เช่น พวงมาลัย  ผลไม้  มหรสพ  ภาพยนตร์  งิ้ว  หนังตะลุง  ลิเก  ในเทศกาลสำคัญเช่น ตรุษจีน  สารทจีน จะมีคนนำเครื่องเซ่นไหว้มากราบไหว้กันมากมาย  แสดงถึงบารมีความศักด์สิทธ์ ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านตลาดเขตให้รวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน"
          จากความสามัคคีกันของชาวบ้านตลาดเขตสามารถสร้างศาลเจ้าพ่อเขาคลุกคลีหลังใหม่เป็นเงินนับสิบล้านบาท  โดยทำพิธีเปิดศาลเมื่อวันที่  ๒๓ ตุลาคม ๒๕๓๗ เนื่องจากชาวบ้านตลาดเขตมีความผูกพันกับพื้นที่สองจังหวัดหรือสองเขต  จึงอัญเชิญดินจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกาญจนบุรีมาเป็นประธานฝ่ายขวา  อัญเชิญดินศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีมาเป็นประธานฝ่ายซ้าย โดยมีเจ้าพ่อเขาคลุกคลีสถิตย์อยู่ตรงกลาง"
          ศาลเจ้าพ่อเขาคลุกคลีตั้งอยู่หมู่บ้านตลาดเขตริมถนนสายอู่ทอง-กาญจนบุรี  หากผู้อ่านมีโอกาสผ่านไปก็อย่าลืมไปกราบไหว้ขอพรหรือศึกษาประวัติความเป็นมาของท้องถิ่น  ซึ่งถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ชุมชนที่น่าศึกษาเรียนรู้